กินเสริมอาหารตอนไหน? ดีที่สุด
กินเสริมอาหารตอนไหน? ดีที่สุด
เดี๋ยวนี้ใครๆก็กินเสริมอาหารกันทั้งนั้น ทั้งบำรุงสมอง ร่างกาย ผิวพรรณ รักษาโรค และเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังต่างๆ แต่เราจะกินตอนไหน ช่วงเวลาไหน ที่จะทำให้เสริมอาหารที่เรากินไปมีประสิทธิภาพมากที่สุด มาเช็คกันเลย
คอลลาเจน
บำรุงผิวพรรณ ผม เล็บ กระดูกและกระข้อต่อต่างๆในร่างกาย ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส สุขภาพดี ชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิว ผม เล็บแข็งแรงขึ้น และช่วยเรื่องข้อต่อให้ทำงานมีประสิทธิภาพ ไม่ผุพังง่าย
ช่วงเวลาทาน : ตอนท้องว่าง ตอนก่อนนอน และคอลลาเจนจะสามารถดูดซึมได้ดีมากยิ่งขึ้นเมื่อกินพร้อมกับวิตามินซี ซึ่งจะยิ่งส่งเสริมให้คอลลาเจนทำงานดีขึ้นด้วย ทำให้ผิวยิ่งดูกระจ่างใสจากภายใน
โพรไบโอติกส์
เป็นแบคทีเรียกับยีสต์ที่พบได้ตามธรรมชาติในลำไส้ หรือจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ เรียกได้ว่าเป็นแบคทีเรียดี พบมากในโยเกิร์ต ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ช่วงเวลาทาน : ควรกินตอนท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด
Grape Seed
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง อัลไซเมอร์ ภูมิแพ้หรือหอบหืด และลดการอักเสบต่างๆ แนะนำทานเพื่อต้านอนุมูลอิสระวันละ 100 มก. ทานเพื่อผิวพรรณและเส้นเลือดขอด 500-600 มก. เพื่อรักษาโรค 500-1,000 มก.
ช่วงเวลาทาน : ซึ่งควรกินก่อนอาหารเช้า เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด
วิตามินซี
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชะลอการเกิดริ้วรอย ป้องกันผิวคล้ำเสียจากแสงแดด เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรค ลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และช่วยป้องกันมะเร็ง
ช่วงเวลาทาน : หลังอาหารเช้า เพราะจะทำให้ดูดซึมได้ดี และลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารจากกรด
Zinc
คือสังกะสี ช่วยในการรักษาและบรรเทาการอักเสบของสิว ช่วยรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในผิวหนัง ทำให้ไม่เกิดสิวอุดตัน
ช่วงเวลาทาน : กินตอนท้องว่าง หรือสามารถกินพร้อมอาหารได้เลย
วิตามินบี
ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่โทรม ผ่อนคลายความตึงเครียด ลดอาการเหน็บชา และบำรุงผิวพรรณ
ช่วงเวลาทาน : ก่อนอาหารเช้า เพราะสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด
เมื่อรู้แล้วว่าเสริมอาหารแต่ละชนิดกินตอนไหนมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็อย่าลืมทำตามกันด้วยน้า เพราะการกินเสริมอาหารในช่วงเวลาที่ดี ก็จะยิ่งช่วยส่งผลให้เราได้รับประสิทธิภาพจากการกินเสริมอาหารนั้นๆได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
